top of page

Law Inspired Ep.2 - ทนายเต้


มาทำความรู้จักกับ Law Inspired ท่านที่สอง


นายวีรพจน์ ตลอดสุข หรือทนายเต้


ประวัติการศึกษา

  • นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

  • สอบผ่านใบอนุญาตให้เป็นทนายความ

  • ประสบการณ์ว่าความมาแล้วมากกว่า 5 ปี


ทำไมถึงเลือกมาเรียนคณะนิติศาสตร์ ?

ตอนนั้นเราเป็นเด็กสายสายวิทย์-คณิต ตอนแรกเราอยากจะเรียนคณะวิศวะ แต่ด้วยความที่วิศวะไม่ตรงกับทางเราเท่าไหร่เพราะเราเป็นคนชอบพูด พูดเก่ง พอมาช่วง ม.5 ปลายๆ ก็มานั่งคิดแล้วว่าเราควรจะเข้าคณะอะไรดี  เรียนอะไรดี  โดยมีคุณพ่อที่เคยเรียนคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ท่านเรียนไม่จบและมีพี่ชาย 2 คน เรียนไปทางสายศิลป์หมดเลยไม่มีใครเรียนกฎหมาย  ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจจะเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ ลองเอาหนังสือกฎหมายมานั่งอ่านแล้วรู้สึกว่าโอเคเราเข้าใจกับสิ่งนี้เราถนัดด้านนี้  แล้วคนรอบข้างก็ไม่มีใครเรียนด้านกฎหมายสักคนทั้งเพื่อนพี่น้องก็เลยคิดว่าถ้าวันนึงถ้าคนรอบข้างมีปัญหาอย่างน้อยก็มาปรึกษาเราได้  แต่ตอนนั้นยังไม่ได้โฟกัสว่าจะเป็นทนาย อัยการ หรือผู้พิพากษา  ตอนนั้นคิดแค่ว่าตั้งใจจะเข้าคณะนิติศาสตร์  เพราะว่าอย่างน้อยคนเราควรที่จะรู้กฎหมายจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบ เหตุผลดังกล่าวทำให้ตัดสินใจที่เรียนคณะนิติศาสตร์ครับ


การเรียนนิติศาสตร์ ?

เราคิดว่าจุดเริ่มต้นในการเรียนกฎหมายนั้น ทุกคนจะสตาร์ทเท่ากันหมด และต้องเข้าใจกฎหมายว่าเหตุและผลของกฎหมายนั้นๆ คืออะไร มันไม่ใช่ว่าเก่งแล้วจะได้เปรียบคนอื่น ถึงแม้จะเก่งแต่ไม่ขยันหรือไม่เข้าใจก็จะทำไม่ได้  เราขอยกตัวอย่างเพื่อนคนนึง  เพื่อนคนนี้เป็นคนที่เรียนไม่เก่งเลย  เป็นเด็กติดเกมส์แต่มีจุดพลิกผันที่เป็นจุดเริ่มต้นให้มาเรียนสายกฎหมายซึ่งแม่ของเพื่อนได้เสียชีวิตลง  แม่ฝันใฝ่อยากเห็นลูกเป็นผู้พิพากษาจากมัธยมที่ติดเกมส์เกรด 1 กว่าๆ เข้ามาเรียนนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกรดดีขึ้นเรียนเก่งขยันมากๆ  เราคิดว่าในการเรียนนิติศาสตร์นั้นมันอยู่ที่ว่าเราทุ่มเทมากแค่ไหน  เราตั้งใจมากแค่ไหน  ซึ่งคณะนี้ก็ต้องยอมรับว่าอ่านหนังสือเยอะจริงๆ

แต่ถ้าเราอ่านแล้วเราเข้าใจว่าและเราอ่านไปเพื่ออะไร  มันก็เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะทำได้ถ้ามีความพยามมากพอ

ในมุมมองในการอ่านหนังสือกฎหมายของเรา ตอนแรกๆ จะมองว่าถ้าเป็นเพื่อนเราเจอเหตุการณ์แบบนี้  เพื่อนไปทำแบบนี้เพื่อนจะผิดอะไร  เราจะช่วยเพื่อนยังไงได้บ้าง นี่เป็นสิ่งที่เราอ่านและคิดตามว่าเราจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นยังไงต่อ  และขอแนะนำว่าในการเรียนมหาลัยนั้น  ถ้าเรารู้จักคนเยอะๆ ไว้ก็จะดีมากเพื่อเป็นคอนเน็กชั่นในอนาคตครับ


ทำไมถึงเลือกที่จะเป็นทนายความ ?

ตอนแรกที่เข้ามาเรียนคณะนิติศาสตร์ยังไม่ได้โฟกัสว่าจะเป็นทนาย อัยการ  หรือผู้พิพากษา พึ่งมาเริ่มตัดสินใจที่อยากจะเป็นทนายตอนขึ้นปี 3 ซึ่งตอนมหาลัยเราก็ทำกิจกรรมเยอะและเราได้มีโอกาสได้เป็น mc ของคณะนิติศาสตร์และเป็นพิธีกรต่างๆ  พอเราได้ทำกิจกรรม เรารู้สึกว่าเราชอบพูดเราได้พูด  และเราชอบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ารู้สึกว่าเป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้  พอเจอปัญหาพวกนี้ก็ชอบแก้ไข ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดเล็กๆ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากเป็นทนายความ โดยทนายความนั้นต้องมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี  และการเป็นทนายความที่ดีเราต้องจับประเด็นให้ได้  แล้วต้องรู้ว่าคดีนี้เกี่ยวกับประเด็นอะไร  และต้องประเมินเอกสารต่างๆ ที่เราต้องการรู้เบื้องต้นก่อนว่าเราจะรับทำคดีนี้มั้ย  ถ้ารับก็ค่อยคุยรายละเอียดต่างๆ อีกทีครับ  เพราะฉะนั้นถ้าเราทำอาชีพนี้แล้วมีความสุข  ได้ช่วยเหลือคนเป็นจุดมุ่งหมายตามที่เราวางไว้ก็ทำต่อไปครับ


ถ้าเราทำอาชีพนี้แล้วมีความสุข  ได้ช่วยเหลือคนเป็นจุดมุ่งหมายตามที่เราวางไว้ก็ทำต่อไปครับ

ได้อ่านบทสัมภาษณ์จากพี่ทนายเต้แล้วหวังว่าน้องหลาย ๆ คนจะได้แรงบัลดาลใจกันนะครับ

แต่บทสัมภาษณ์ของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูบทสัมภาษณ์ในรูปแบบวีดีโอได้ทางช่องทาง Tiktok และ Instagram อย่าลืมกดติดตาม กดแชร์ และกด like เพื่อให้กำลังใจทีมงานทุกคนกันด้วยนะครับ


コメント


ช่องทางการติดตาม (คลิกที่ไอคอนได้เลย)

  • TikTok
  • Line
  • Facebook
  • LinkedIn
  • Instagram
เข้าร่วมไลน์กลุ่ม JB LAW CENTER

© Copyright JB LAW CENTER © 2023 All Rights Reserved

bottom of page