Law Inspired Ep.2 - ทนายเต้
- JB LAW CENTER OFFICIAL
- 6 มิ.ย. 2566
- ยาว 1 นาที
มาทำความรู้จักกับ Law Inspired ท่านที่สอง
นายวีรพจน์ ตลอดสุข หรือทนายเต้
ประวัติการศึกษา
นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สอบผ่านใบอนุญาตให้เป็นทนายความ
ประสบการณ์ว่าความมาแล้วมากกว่า 5 ปี
ทำไมถึงเลือกมาเรียนคณะนิติศาสตร์ ?
ตอนนั้นเราเป็นเด็กสายสายวิทย์-คณิต ตอนแรกเราอยากจะเรียนคณะวิศวะ แต่ด้วยความที่วิศวะไม่ตรงกับทางเราเท่าไหร่เพราะเราเป็นคนชอบพูด พูดเก่ง พอมาช่วง ม.5 ปลายๆ ก็มานั่งคิดแล้วว่าเราควรจะเข้าคณะอะไรดี เรียนอะไรดี โดยมีคุณพ่อที่เคยเรียนคณะนิติศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง แต่ท่านเรียนไม่จบและมีพี่ชาย 2 คน เรียนไปทางสายศิลป์หมดเลยไม่มีใครเรียนกฎหมาย ตอนนั้นก็เลยตัดสินใจจะเข้าเรียนคณะนิติศาสตร์ ลองเอาหนังสือกฎหมายมานั่งอ่านแล้วรู้สึกว่าโอเคเราเข้าใจกับสิ่งนี้เราถนัดด้านนี้ แล้วคนรอบข้างก็ไม่มีใครเรียนด้านกฎหมายสักคนทั้งเพื่อนพี่น้องก็เลยคิดว่าถ้าวันนึงถ้าคนรอบข้างมีปัญหาอย่างน้อยก็มาปรึกษาเราได้ แต่ตอนนั้นยังไม่ได้โฟกัสว่าจะเป็นทนาย อัยการ หรือผู้พิพากษา ตอนนั้นคิดแค่ว่าตั้งใจจะเข้าคณะนิติศาสตร์ เพราะว่าอย่างน้อยคนเราควรที่จะรู้กฎหมายจะได้ไม่ถูกเอาเปรียบ เหตุผลดังกล่าวทำให้ตัดสินใจที่เรียนคณะนิติศาสตร์ครับ
การเรียนนิติศาสตร์ ?
เราคิดว่าจุดเริ่มต้นในการเรียนกฎหมายนั้น ทุกคนจะสตาร์ทเท่ากันหมด และต้องเข้าใจกฎหมายว่าเหตุและผลของกฎหมายนั้นๆ คืออะไร มันไม่ใช่ว่าเก่งแล้วจะได้เปรียบคนอื่น ถึงแม้จะเก่งแต่ไม่ขยันหรือไม่เข้าใจก็จะทำไม่ได้ เราขอยกตัวอย่างเพื่อนคนนึง เพื่อนคนนี้เป็นคนที่เรียนไม่เก่งเลย เป็นเด็กติดเกมส์แต่มีจุดพลิกผันที่เป็นจุดเริ่มต้นให้มาเรียนสายกฎหมายซึ่งแม่ของเพื่อนได้เสียชีวิตลง แม่ฝันใฝ่อยากเห็นลูกเป็นผู้พิพากษาจากมัธยมที่ติดเกมส์เกรด 1 กว่าๆ เข้ามาเรียนนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เกรดดีขึ้นเรียนเก่งขยันมากๆ เราคิดว่าในการเรียนนิติศาสตร์นั้นมันอยู่ที่ว่าเราทุ่มเทมากแค่ไหน เราตั้งใจมากแค่ไหน ซึ่งคณะนี้ก็ต้องยอมรับว่าอ่านหนังสือเยอะจริงๆ
แต่ถ้าเราอ่านแล้วเราเข้าใจว่าและเราอ่านไปเพื่ออะไร มันก็เป็นเรื่องที่ทุกคนน่าจะทำได้ถ้ามีความพยามมากพอ
ในมุมมองในการอ่านหนังสือกฎหมายของเรา ตอนแรกๆ จะมองว่าถ้าเป็นเพื่อนเราเจอเหตุการณ์แบบนี้ เพื่อนไปทำแบบนี้เพื่อนจะผิดอะไร เราจะช่วยเพื่อนยังไงได้บ้าง นี่เป็นสิ่งที่เราอ่านและคิดตามว่าเราจะแก้ไขปัญหาเหล่านั้นยังไงต่อ และขอแนะนำว่าในการเรียนมหาลัยนั้น ถ้าเรารู้จักคนเยอะๆ ไว้ก็จะดีมากเพื่อเป็นคอนเน็กชั่นในอนาคตครับ
ทำไมถึงเลือกที่จะเป็นทนายความ ?
ตอนแรกที่เข้ามาเรียนคณะนิติศาสตร์ยังไม่ได้โฟกัสว่าจะเป็นทนาย อัยการ หรือผู้พิพากษา พึ่งมาเริ่มตัดสินใจที่อยากจะเป็นทนายตอนขึ้นปี 3 ซึ่งตอนมหาลัยเราก็ทำกิจกรรมเยอะและเราได้มีโอกาสได้เป็น mc ของคณะนิติศาสตร์และเป็นพิธีกรต่างๆ พอเราได้ทำกิจกรรม เรารู้สึกว่าเราชอบพูดเราได้พูด และเราชอบการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ารู้สึกว่าเป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้ พอเจอปัญหาพวกนี้ก็ชอบแก้ไข ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นจุดเล็กๆ จุดเริ่มต้นที่ทำให้เราอยากเป็นทนายความ โดยทนายความนั้นต้องมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้เป็นอย่างดี และการเป็นทนายความที่ดีเราต้องจับประเด็นให้ได้ แล้วต้องรู้ว่าคดีนี้เกี่ยวกับประเด็นอะไร และต้องประเมินเอกสารต่างๆ ที่เราต้องการรู้เบื้องต้นก่อนว่าเราจะรับทำคดีนี้มั้ย ถ้ารับก็ค่อยคุยรายละเอียดต่างๆ อีกทีครับ เพราะฉะนั้นถ้าเราทำอาชีพนี้แล้วมีความสุข ได้ช่วยเหลือคนเป็นจุดมุ่งหมายตามที่เราวางไว้ก็ทำต่อไปครับ
ถ้าเราทำอาชีพนี้แล้วมีความสุข ได้ช่วยเหลือคนเป็นจุดมุ่งหมายตามที่เราวางไว้ก็ทำต่อไปครับ
ได้อ่านบทสัมภาษณ์จากพี่ทนายเต้แล้วหวังว่าน้องหลาย ๆ คนจะได้แรงบัลดาลใจกันนะครับ
แต่บทสัมภาษณ์ของเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้น้อง ๆ สามารถเข้าไปดูบทสัมภาษณ์ในรูปแบบวีดีโอได้ทางช่องทาง Tiktok และ Instagram อย่าลืมกดติดตาม กดแชร์ และกด like เพื่อให้กำลังใจทีมงานทุกคนกันด้วยนะครับ
コメント